top of page

บทสัมภาษณ์คังแดเนียล HIGHCUT ฉบับที่ 249

  • Writer: withkdnth
    withkdnth
  • May 29, 2020
  • 2 min read

บทสัมภาษณ์คังแดเนียล จากนิตยสาร HIGHCUT ฉบับที่ 249


Q: ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง? ยุ่งมากเลยใช่ไหม?

A: ฮ่าฮ่า ก็ยุ่งอยู่ครับ ตอนนี้มีทัวร์แฟนมีตติ้งเพื่อเจอกับดานิตี้ทุกคน แล้วก็แน่นอนว่ากำลังเตรียมอัลบั้มถัดไปอยู่ด้วยครับ


Q: คุณถูกเรียกว่าเป็น ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายแบบ’ วันนี้ก็ได้ถ่ายแบบกับเสื้อผ้าเดนิมสไตล์ลำลองไป ดูเหมือนจะใกล้เคียงกับสไตล์ในชีวิตประจำวันของแดเนียลมากที่สุดเลยนะ รู้สึกยังไงบ้าง?

A: โดยส่วนตัว ผมชอบ Calvin Klein อยู่แล้ว ทรงของกางเกงในวันนี้ก็พอดีมากๆ เลยรู้สึกดีครับ อารมณ์เหมือนกับเวลาเลือกใส่เสื้อผ้าที่ถูกใจออกไปข้างนอกแล้วก็เลยอารมณ์ดีตามไปด้วยครับ ฮ่าฮ่า


Q: คุณเป็นคนประเภทที่ใส่ใจกับลุคเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันหรือเปล่า?

A: ช่วงนี้ผมมีแนวโน้มเป็น ‘คนติดบ้าน’ ก็เลยไม่ค่อยได้ออกไปไหนเท่าไหร่ แต่ว่าเวลาออกไปข้างนอกก็เป็นประเภทที่ใส่ใจกับเสื้อผ้าที่ใส่ครับ ช่วงนี้ผมสนใจสไตล์ที่ผมไม่เคยได้ลองสวมใส่ อย่างเช่นแฟชั่นสนามบินครั้งล่าสุด ผมใส่กางเกงที่ขากว้างขนาดนั้นเป็นครั้งแรกเลยครับ เป็น Baggy pants นะครับแต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะขาผมยาว (?) หรือเปล่า แทนที่จะมองเห็นเป็นทรงกางเกงโคร่งๆ กลับดูพอดีเหมือนกางเกงธรรมดามากกว่าครับ ฮ่าฮ่า


Q: หลังจากเริ่มต้นทางเดินโซโล่จนถึงตอนนี้ คุณก็ได้เขียนสถิติใหม่ ๆ มากมาย ทั้งยอดขายอัลบั้ม ‘color on me’ ในสัปดาห์แรกกว่า 460,000 อัลบั้ม มิวสิกวิดีโอของคุณก็ใช้เวลาสั้น ๆ ในการได้ยอดวิวถึง 10,000,000 วิว คงจะปลาบปลื้มใจสมกับที่ขยันในการเตรียมตัวเลยใช่ไหม

A: ผมไม่รู้เลยครับว่าจะมีคนสนับสนุนผมมากมายขนาดนั้น ผมรู้สึกขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่เชื่อและรอคอยผม ที่จริงแล้วในช่วงเวลานั้นมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมากมาย มีเรื่องที่ทำให้รู้สึกไม่ดีก็เยอะ แต่ขอบคุณนะครับที่คอยอยู่ข้าง ๆ ผมอย่างมั่นคง ต่อไปก็ช่วยตั้งตารอสิ่งที่เราจะเติมเต็มไปด้วยกันในอนาคตด้วยนะครับ ตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของคังแดเนียลครับ


Q: ที่จริงแล้ว ถ้าเป็นคังแดเนียล คนก็จะนึกถึงการเต้นที่แข็งแรงและเก็บรายละเอียดได้ดี แต่แปลกใจที่ในอัลบั้มนี้มีลิสต์เพลงที่มุ่งไปที่การร้องมากกว่า

A: นั่นก็คือด้านที่แตกต่างออกไปครับ ผมอยากแสดงด้านที่ไม่เคยได้เห็นกัน มากกว่าการที่ว่า อัลบั้มนี้จะบรรจุสีสันทางดนตรีแบบไหนของคังแดเนียล ผมอยากแสดงให้เห็นความต้องการและความหวังของผมครับ เพราะฉะนั้น ในอัลบั้มต่อไปทั้งสีสันและแนวทางก็จะฉีกออกไปโดยสิ้นเชิงเลย โดยส่วนตัวแล้วผมก็ชอบแบบมีคอนเซ็ปต์ แต่แทนที่จะวางแผนออกมาแบบนั้น ผมอยากนำเสนอเพลงในแนวที่ผมชอบออกมามากกว่าครับ ซึ่งนี่เป็นขั้นตอนที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับทิศทางด้านดนตรีที่ผมยังติดค้างอยู่ได้เป็นอย่างดี


Q: ผลลัพธ์ในชาร์ตดิจิทัลอะไรแบบนี้ สถิติแบบนี้ไม่ทำให้คุณรู้สึกกดดันเหรอ?

A: ไม่เลยครับ ในมุมมองของผม ผมไม่ได้มองในส่วนนั้นเลย อะไรแบบนั้นเป็นสิ่งที่อยู่เหนือผมไปมากเลยครับ ผมแค่อยากทำให้ดี แค่อยากมีโอกาสได้เจอกับแฟน ๆ เยอะ ๆ ผมคิดอยู่เท่านี้ครับ เพราะฉะนั้นเลยได้ข้อสรุปในการรีบจัดงานแฟนมีตติ้งขึ้นมา ที่น่าเสียดายคือจำนวนเพลงที่มีน้อยไปหน่อย… ฮ่าฮ่า อยากเพิ่มให้เพียงพอไว ๆ แล้วจัดคอนเสิร์ตเร็ว ๆ ครับ จริง ๆ นะครับ


Q: ผลลัพธ์ออกมาดี แต่ว่าในการเริ่มต้นเพียงคนเดียวคงจะมีความกังวลแล้วก็ความกลัวเหมือนกันใช่ไหม

A: เมื่อก่อนผมคิดว่าผมมีความมั่นใจมากอยู่นะครับ แต่เดี๋ยวนี้เวลาจะทำอะไรผมจะลังเลหน่อย ๆ แบบระมัดระวังขึ้นครับ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าใครทำให้ผมเป็นแบบนี้นะ แต่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ผมต้องผ่าน แล้วก็เป็นปัญหาที่อุปนิสัยของผมมากกว่าครับ ก่อนการเริ่มต้นการโซโล่ นอกจากเรื่องดนตรีแล้วก็ยังมีปัญหาอื่น ๆ อีกมาก ผมจึงกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับผู้คน เวลา 6 เดือนนั้น ถึงผมจะได้รับข้อความให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก แต่ก็ได้อ่านข้อความด่าทอเป็นจำนวนมากเช่นกันครับ แต่ถึงอย่างไรแฟน ๆ ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมมีความกล้าขึ้นมา ในอนาคตผมอยากให้แฟน ๆ ได้ฟังดนตรีของผมอย่างสบายใจ และได้รับพลังจากการแสดงของผมครับ ผมไม่อยากพูดว่าผมจะเป็น ‘ผู้มอบความหวัง’ ใหญ่โตอะไรแบบนั้นครับ แค่ว่า “อา แดเนียลยังมีความกล้าที่จะทำอะไรได้ ฉันเองก็ต้องทำได้เหมือนกัน” ถ้ามีความคิดแบบนี้ก็คงจะดีครับ ผมอยากเป็นเหมือนเพื่อนที่ไม่ทำให้รู้สึกลำบากใจครับ


Q: ถ้าอย่างนั้นในทางตรงข้าม แฟนๆ เป็นพลังให้แดเนียลได้มากที่สุดตอนไหน?

A: ผมรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอครับ ในช่วงเวลาเริ่มต้น ถ้อยคำที่มอบให้ผมทุกๆ คำเป็นพลังอย่างใหญ่หลวงให้ผมครับ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีความกล้า… เพราะฉะนั้นถึงจะรู้สึกเหนื่อยแค่ไหน ผมก็หนีไปไม่ได้ เพราะพวกเขารอผมอยู่นี่ครับ ผมต้องออกมาหาเขาอย่างเท่ๆ สิ ผมต้องปรากฏตัวออกมาแบบเท่ๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องการครับ


Q: เร็วๆนี้ คุณได้ตั้งชื่อแฟนคลับ ‘ดานิตี้’ ต่อไปก็จะได้สร้างความทรงจำมากมายกับแฟนๆ ในชื่อนี้แล้วสินะ

A: ฮ่าฮ่า ทุกคนถูกใจผมก็โล่งใจครับ ความหมายเองก็พิเศษมากด้วย ผมชอบขนาดว่า ‘โอ้ คิดแบบนี้ออกมาได้ยังไงนะ?’ ประมาณนี้เลยครับ เป็นการคัดเลือกกันจากตัวเลือกชื่อ ในนั้นก็มีชื่อที่ผมตั้งเองด้วย ชื่อที่ดานิตี้ทุกคนตั้งกันเองก็เยอะ เอามาเทียบน้ำหนักกันไม่ได้หรอกครับ ชื่อที่ถูกส่งเข้ามาทุกชื่อก็มีความหมายที่ดีมากๆ ที่น่าสนใจก็มีเยอะครับ ในบรรดาชื่อที่ส่งเข้ามา ไม่รู้ตั้งใจให้ผมหัวเราะไหมนะ แบบ ‘มนุษย์แมว’ อะไรแบบนี้ ที่ฮาๆ แบบนี้ หรือน่ารักๆ ก็มีเยอะครับ ฮ่าฮ่า ถ้าคิดมาอย่างจริงจังผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ…(?) ผมจะสร้างช่วงเวลาและความทรงจำสุดพิเศษมากมายให้สมกับชื่อนี้ครับ


Q: เพื่อการเป็นที่สุดมักจะมีอุปสรรคมากมาย ในความเป็นจริงแดเนียลก็จัดการภารกิจไปได้มาก และสามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นได้อย่างดีเช่นกัน ในทุกช่วงเวลาเหล่านั้นทำให้คิดอะไรได้บ้างหรือเปล่า?

A: “ลงมือทำก็พอ” จริงๆ ครับ ฮ่าฮ่า แน่นอนว่าการจะเป็นที่สุด ในนั้นจำเป็นต้องมีดวง รวมถึงความสามารถด้วย แม้จังหวะเวลาก็สำคัญมากเหมือนกัน ที่จริงเพราะอาชีพของผมคือการแสดงออกถึงด้านที่เท่และสดใสบนเวที จึงอยากจะแบ่งปันความทรงจำที่มีความสุข ดังนั้นอาจจะมีหลายคนที่ไม่รู้... ที่จริงวัยเด็กกับช่วงวัยรุ่นของผมลำบากมาก รวมถึงสถานการณ์บางอย่างที่บ้าน ผมนับถือศาสนาคริสต์ครับ บางครั้งถึงขนาดคิดตัดพ้อกับพระเจ้า ดังนั้นจึงพูดได้ว่าช่วงเวลาเหล่านั้นผมผ่านอุปสรรคความลำบากมามาก ผมสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าผมใช้ชีวิตด้วยความพยายาม แม้จะเป็นเช่นนั้น ผมก็ได้เดบิวต์ผ่านรายการเซอร์ไวเวอร์ ในที่สุดก็ได้ออกอัลบั้มโซโล่ ผมรู้สึกขอบคุณในทุก ๆ ด้านมากครับ


Q: คุณมักแสดงด้านที่สดใสร่าเริงอยู่เสมอ ดังนั้นคนที่ไม่รู้ด้านนั้นของคุณคงมีเยอะมาก คุณเป็นประเภทที่ความคิดโตเป็นผู้ใหญ่ก่อนวัยหรือเปล่า?

A: ฮ่าฮ่า ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ผมก็คือนักร้องไอดอลครับ การมีอยู่ของผมควรให้พลังกับคนอื่น ผมอยากให้ภาพลักษณ์ที่สดใสเป็นพลังให้กับผู้อื่น ชีวิตสำหรับทุกคนต่างก็ยากใช่ไหมล่ะครับ


Q: เมื่อเทียบกับตอนที่ก้าวออกมาอยู่ตรงหน้าทุกคนในฐานะหนึ่งในเด็กฝึกของรายการ Produce 101 กับตอนนี้ สิ่งที่คุณคิดว่าเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดคืออะไร?

A: เหมือนว่าจะทำงานบ้านได้ดีขึ้นครับ ฮ่าฮ่า กลายเป็นคนที่แม้จะอยู่คนเดียวก็ทำกับข้าวได้ดี อีกอย่างเหมือนว่าเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนจะคิดอย่างลึกซึ้งและเยอะขึ้น เพราะในฐานะศิลปิน ผมเป็นศิลปินเดี่ยวโดยสมบูรณ์แล้วนี่นา เกี่ยวกับอนาคต หรือไม่ก็ เกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ ทุกเรื่อง... ก็สุขุมรอบคอบขึ้นกว่าเดิมมากครับ


Q: เมื่อทำอาหารได้ดีแล้ว นั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในชีวิตได้ยังไง?

A: ถึงตอนนี้จะยังใช้มีดได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ว่ารสชาติรับประกันได้นะครับ (มีเมนูไหนที่มั่นใจเป็นพิเศษไหม?) อาหารพวกต้มก็ยากอยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ เพราะต้องเคี่ยวให้มันมีรสชาติที่เข้มข้น หรือผมจะได้รับสืบทอดฝีมือจากคุณแม่กันนะ รสชาติถึงได้ออกมาเข้มข้นนิดหน่อย? ฮ่าฮ่า


Q: ถ้าอย่างนั้น อะไรที่แดเนียลอยากทำอีกบ้าง? หรืออะไรที่แดเนียลอยากกำจัดออกไป?

A: อย่างแรกเลย สำหรับผมแน่นอนว่าเรื่องความสามารถด้านดนตรี 'อีกอีกอีกอีกอีกอีกอีกอีกอีก' อยากเก่งขึ้นอีกคูณสองหมื่นเท่าเลยครับ ส่วนที่อยากกำจัดก็คือความกลัวแมลงครับ ตอนนี้ก็ยังกลัวอยู่ แล้วก็อยากเพิ่มความมั่นใจอีกครับ


Q: บนเวทีดูมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมอยู่เสมอเลยนี่? ดูไม่ออกเลยนะ

A: เป็นการใช้พลังใจน่ะครับ ที่ผมทำได้ดี ไม่ใช่เพราะมีความ 'โปร' อะไรขนาดนั้นนะครับ แค่เป็น 'ความเป็นมืออาชีพ' ครับ ฮ่าฮ่า เหมือนกับที่คุณนักข่าวเป็นนั่นแหละครับ


Q: ตอนนี้ได้ทำเพลงและเต้นในแบบที่ตัวเองชอบแล้ว ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในการทำกิจกรรมคือตอนไหน?

A: ตอนที่การแสดงจบแล้วผมได้ยินเสียงกรี๊ดของแฟน ๆ จากด้านหลัง ผมรู้สึกภูมิใจครับ สำหรับความตื่นเต้น มากกว่าช่วงเวลาในการทำกิจกรรมจะรู้สึกตื่นเต้นกับการเตรียมอัลบั้มต่อไปมากกว่าครับ 'คราวนี้ถ้าทำแบบนี้จะชอบกันไหมนะ?' 'จะฟังกันเยอะ ๆ ไหม?' 'คนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ดานิตี้จะฟังกันไหมนะ?' อะไรแบบนี้ครับ... ตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นเลยครับ อัลบั้มแรกผมเตรียมมันขึ้นมาแบบฉุกละหุกไปหน่อย น่าเสียดายครับ


Q: อย่างนั้นก็ต้องรีบกำจัดความเสียดายนั้นโดยเร็วเลยสิ ในอัลบั้มที่สองคุณอยากจะแสดงอะไรออกมาทดแทนบ้าง?

A: ผมเติบโตขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้วครับ ผมอยากแสดงออกถึงสีสันที่ของผมเอง ‘ตัวตนของผม’ ในฐานะศิลปินเดี่ยวที่สง่าผ่าเผยครับ


Q: ช่วงอายุ 24 ปี ที่ได้ชมภาพยนตร์ไปกว่า 1,000 เรื่อง คุณถูกเรียกว่าเป็น ‘แฟนหนังตัวยง’ เร็ว ๆ นี้คุณยังได้พบกับ Baz Luhrmann ด้วย เป็นยังไงบ้าง?

A: ผมชอบภาพยนตร์ Moulin Rouge และ The Great Gatsby ของคุณผู้กำกับมาก ๆ เลยนะครับ แต่ว่าตอนเจอยังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลย เพราะว่าเขาเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่ได้พบกันง่าย ๆ ผมเลยมีคำถามมากมาย แต่กลับเป็นคุณผู้กำกับที่ได้ให้คำปรึกษาแก่ผมและเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ ของผม ผมบอกว่าตอนเด็ก ๆ ผมมีความฝันอยากเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ เขาเลยบอกว่า “คราวหน้าลองถ่ายหนังสักเรื่องสิแล้วจะตรวจให้” เขายังถามกึ่งล้อเล่นกับผมว่า “ลองแสดงดูบ้างเป็นไง?” ผมตอบไปว่า “ตอนนี้ผมยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องการแสดงเลย คิดแค่ว่าอยากร้องเพลงบนเวทีครับ” เรายังคุยเกี่ยวกับเรื่องที่ผมจะไปโผล่ในหนังของผู้กำกับในอนาคต รวมถึงหนังที่ผมเป็นคนกำกับ ใช้วิธีที่สนุกสนานแบบนี้ในการพบเจอกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ฮ่าฮ่า ช่วงเวลาเหล่านั้นสนุกมากเลยล่ะครับ


Q: เร็วๆ นี้คุณดูภาพยนตร์เรื่องอะไร และอยากแนะนำภาพยนตร์เรื่องอะไร?

A: ผมขอแนะนำภาพยนตร์ The Guardian ของผู้กำกับ Andrew Davis เป็นเรื่องราวของหน่วยกู้ภัยทางทะเลครับ


Q: ดูภาพยนตร์ทุกประเภทแบบไม่เลือกเลยใช่ไหม?

A: ดูทั้งหมดแบบไม่เลือกเลยจริง ๆ ครับ อ่า ยกเว้นเรื่องผีครับ ฮ่าฮ่า เวลาดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีก็เลยไม่ชอบเท่าไหร่ เมื่อก่อนผมแกล้งเพื่อน ๆ ด้วยการแนะนำหนังผีให้แบบไม่บอกว่าเป็นหนังผีครับ ตอนนั้นการล้อเล่นแบบนั้นกำลังมาแรงอะครับ ฮ่าฮ่า แต่ว่าเดี๋ยวนี้เพราะ CG พัฒนาขึ้นมากแล้วไหมนะ หนังผีเลยน่ากลัวมาก ๆ ครับ


Q: แล้วภาพยนตร์ระทึกขวัญล่ะ?

A: เวลาดูแล้ว ‘แบบนั้นเกิดขึ้นมาได้ในชีวิตจริงนี่นา’ พอคิดแบบนั้นก็รู้สึกว่าน่ากลัวมากเลยครับ ‘ถ้ามีคนแบบนั้นจริง ๆ จะทำยังไงนะ?’ เวลาที่เกิดความคิดแบบนั้น… โอ้ว เวลาที่หนังเพิ่งเริ่มแล้วมีข้อความว่า ‘ภาพยนตร์นี้สร้างจากเหตุการณ์จริง’ ขึ้นมา ผมเดินออกจากโรงทันทีเลยครับ ฮ่าฮ่า ผมกลัวอะไรแบบนั้นจริง ๆ


Q: นอกจากเป็น “แฟนหนังตัวยง” แล้ว “เจ้าพ่อโฟกัสแคม” ก็เป็นอีกฉายาที่ไม่ขาดไม่ได้สำหรับแดเนียล สาเหตุที่มีแค่โฟกัสแคมของแดเนียลที่ได้รับความนิยมขึ้นมาคืออะไร?

A: ที่จริงคนที่เต้นดีกว่าผมยังมีอีกเยอะเลย บนโลกนี้อาจจะมีเกินหนึ่งร้อยล้านคนก็ได้จริงไหมล่ะครับ คิดดูแล้วเหตุผลที่คนชอบอาจเป็นเพราะค่อนข้างเป็นธรรมชาติ เวลาเต้นไม่ได้ตั้งใจใส่พลังไปกับส่วนใดส่วนหนึ่ง ส่วนตัวผมชอบเต้นโดยให้ความรู้สึกไม่ถูกจำกัด ผมจะไปตามจังหวะไม่ว่าจะเป็นตอนจบการแสดงหรือตอนร้องเพลงครับ ฮ่าฮ่า ขอบคุณที่ดูกันนะครับ


Q: งานอดิเรกใหม่ช่วงนี้คืออะไร?

A: ต่อเลโก้ครับ แล้วก็เหมือนจะหลงใหลงานประติมากรรมเข้าให้แล้ว... (จะทำงานแกะสลักเหรอ?) ฮ่าฮ่า แค่ดู ไม่ทำหรอกครับ ช่วงนี้ผมหาดูเกี่ยวกับศิลปินที่เกี่ยวข้องรวมถึงสารคดีด้วย ช่วงนี้ได้ดูสารคดีเกี่ยวกับไมเคิลแองเจโล น่าสนใจมากจริง ๆ ครับ


Q: ถ้าอย่างนั้นขนมที่ช่วงนี้ชอบกินล่ะ? เมื่อก่อนชอบเจลลี่มากใช่หรือเปล่า? วันนี้เพื่อแดเนียลทีมงานของ HIGHCUT ก็เตรียมเจลลี่มาเยอะเลยนะ

A: ถ้ามีให้กินก็กินครับ แต่เหมือนจะไม่ได้อยากจะหามากินโดยเฉพาะ (แม้จะพูดแบบนั้นแต่บนโต๊ะสัมภาษณ์กลับเหลือขนมขบเคี้ยวรสเปรี้ยวหวานแค่ครึ่งเดียวแล้ว) ผมชอบพวกน้ำอัดลมด้วย ถ้าดื่มมากไปก็จะเกินพอดี วันหนึ่งเลยดื่มประมาณหนึ่งกระป๋องครับ (นั่นก็เยอะแล้วไม่ใช่เหรอ?) ไม่เยอะเกินไปหรอกมั้งครับ คนที่ชอบดื่มจริง ๆ อย่างเช่นเพื่อนผมมักจะพกโคล่าขนาดลิตรครึ่งติดตัวเสมอ ผมชอบซีเรียลรสช็อกโกแลตด้วย บางครั้งเวลาขี้เกียจทำอาหารก็จะกินพร้อมกับนมครับ


Q: คุณพยายามทำการบริจาคเพื่อการกุศลเป็นประจำ มีสาเหตุที่ทำให้คุณหันมาสนใจปัญหาด้านสังคมไหม?

A: อืม… ผมโตขึ้นมาอย่างลำบากพอควรครับ ตั้งแต่ตอนที่ลำบาก ผมก็ได้สนับสนุนในโครงการ UNICEF ผมได้รับจดหมายจากเพื่อน ๆ ที่อยู่ที่แอฟริกาด้วยครับ อ่านแล้วก็รู้สึกซึ้งใจ… ผมเองตอนเด็กมีอะไรที่อยากทำเยอะแยะเลยครับ ศิลปะก็อยากลองเรียน เครื่องดนตรีก็ยังไม่เคยเรียนสักครั้งเลย อยากลองเรียนดูจริง ๆ ครับ ผมรู้ว่ายังมีเด็ก ๆ อีกมากที่มีความสามารถแต่ไม่ได้รับโอกาส ส่วนนั้นทำให้ผมคิดอย่างลึกซึ้งขึ้นอีกครับ ตอนเด็กผมชอบซื้อเสื้อผ้ามือสองจากร้านที่นัมโพดง ในนั้นก็มีที่คุณภาพดีอยู่ แต่ว่าเดิมทีผมเองก็โตไวมาก เสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้ก็เลยนำไปให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในละแวกบ้านครับ มันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ดี ๆ ก็เริ่มขึ้นมาหรอกครับ ที่จริงผมไม่คิดว่ามันเป็นการบริจาค แค่คิดว่าในยุคสมัยนี้กับโลกใบนี้ ถ้าเราสามารถช่วยเหลือกันและกันได้จะดีแค่ไหนกันนะ ฮ่าฮ่า

Q: ตอนนี้ก็มีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้นทุกที ทั้งต้องเริ่มต้นในฐานะศิลปินเดี่ยว ทั้งการเป็นผู้นำบริษัทของตัวเอง คิดว่าเป็นยังไงบ้าง?

A: ฮ่าฮ่า ที่จริงเรื่องการบริหารธุรกิจแน่นอนว่าไม่ใช่ผมทำทั้งหมดหรอกครับ ไม่เคยเรียนมาเลย และไม่มีประสบการณ์ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ศึกษาเยอะอยู่ครับ ทั้งทัศนคติที่เกี่ยวข้องรวมถึงเรื่องต่างๆ ที่จะเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจในแบบนั้น ๆ กำลังพยายามศึกษาเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งหลายเหล่านั้นครับ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญรอบตัวผมจะเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้เกิดการตัดสินใจที่เหมาะสม แต่คำว่าความรับผิดชอบนั้นน่ากลัวมากครับ เพราะฉะนั้นผมจึงครุ่นคิดอย่างมากในหัวข้อที่อาจแปลกประหลาดไปบ้างสำหรับคนอายุยี่สิบสี่ปี แล้วก็นอนไม่หลับเพราะความเครียดที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นครับ แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ผมรู้สึกขอบคุณต่อสตาฟของพวกเราก็คือ ด้วยสถานะของพวกเขา ถ้าให้ผมยืมคำพูดจากสมัยก่อนมาก็คือ ผมน่ะ ‘ยังอ่อนหัด’ เป็นแค่เด็กเท่านั้น เพราะฉะนั้นช่วยเคารพความคิดเห็นของทุกๆ คน และพยายามรวบรวมความคิดเห็นเหล่านั้นแล้วนำพาไปในทางที่ดีด้วยนะครับ ขอบคุณที่มองความพยายามของผมอย่างสวยงามนะครับ เพราะฉะนั้นมากกว่าจะเรียกว่า ‘ผู้จัดการ’ ‘หัวหน้าทีม’ เลยเรียกแค่ว่า ‘ฮยอง’ ‘นูน่า’ ครับ ฮ่าฮ่า


Q: ท่านประธานคังแดเนียลกับศิลปินคังแดเนียลต่างกันยังไงบ้าง? เป็นตำแหน่งที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นมากเลยนะ

A: อืม ตอนนี้ในชีวิตผมมีคังแดเนียลสามคนครับ คังแดเนียลในฐานะประธานบริษัท คังแดเนียลในฐานะศิลปิน และตัวตนดั้งเดิมของผม’คังแดเนียล’ ตัวตนของผมต่างจากด้านที่เห็นกันนะครับ เขาค่อนข้างจะขี้กลัว มีบาดแผลเต็มไปหมด แล้วก็ชอบที่จะอยู่คนเดียวครับ ส่วนศิลปินคังแดเนียล แค่ได้ขึ้นไปยืนบนเวทีก็สามารถมีความสุขไปกับทุกอย่าง ทำทุกสิ่งอย่างสนุกสนาน พร้อมทำทุกกิจกรรมและมีความมั่นใจล้นเหลือครับ ส่วนในฐานะประธาน… ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น มีอะไรที่ต้องลงมือทำด้วยตัวเองเยอะเลยด้วยครับ


Q: คังแดเนียลที่อายุยี่สิบสี่ปี ในตอนนี้วาดอนาคตไว้อย่างไรบ้าง A: แม้ผมจะไม่รู้ว่าเส้นทางที่เดินอยู่ตอนนี้จะจบลงอย่างไร แต่เมื่อย้อนมามองดู ‘ผมได้ใช้ชีวิตอย่างขยันขันแข็งจริง ๆ เลยนะ’ อยากแน่ใจว่าจะพูดได้แบบนี้ครับ และผมจะพยายามเพื่อเป็นคนที่ดีให้ได้ แค่ทำให้สวยงามอย่างไม่ติดค้างอะไร เพื่อเวลามองกลับมาจะได้เห็นว่าเป็นการวิ่งอย่างเต็มที่ ให้สมกับที่ไม่มีอะไรติดค้างครับ เยส! ความฝันของผมค่อนข้างจะสูงครับ

Comments


About Us

© 2020 by WITH KANG DANIEL THAILAND

bottom of page